English please scroll down
ในปัจจุบัน งานพิมพ์ ในรูปแบบต่างๆ เช่น งานปริ้นท์ งานประติมากรรมหล่อ หรือแม้แต่งาน NFT งานเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน แต่งานเหล่านี้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถในการทำซ้ำ ก็จะส่งผลให้งานเหล่านี้มีราคาที่ถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหลายสิบล้าน แต่ด้วยการที่ตัวชิ้นงานชุดหนึ่งมีผู้ครอบครองได้หลายคนตามจำนวนที่ศิลปินได้ผลิตออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน ซึ่งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับงานที่ไม่สามารถผลิตซ้ำได้ดังเช่นภาพวาด หรืองานแกะสลักที่จะมีชิ้นเพียงเดียวเท่านั้น แล้วสิ่งใดเล่าจะเป็นตัวกำหนดราคาของงานชิ้นนั้นๆ? หรือแม้แต่ว่า สิ่งใดจะเป็นตัวกำหนดว่า งานภาพพิมพ์ชิ้นนี้เป็นคนละชิ้นกับอีกชิ้นหนึ่งที่หน้าตาเหมือนอย่างกับแกะ? สิ่งนั้นถูกเรียกว่า “Edition”
Edition คืออะไร?
ในกระบวนการทำภาพพิมพ์นั้น “Edition” หมายถึงจำนวนของภาพพิมพ์ทั้งหมด ที่ได้รับการพิมพ์จากแม่พิมพ์เดียวกัน ซึ่งจะมีสองประเภทคือ Open Edition และ Limited Edition ที่พวกเราคุ้นเคยกัน
.
Open Edition คืองานภาพพิมพ์ที่ศิลปินนั้นไม่ได้กำหนดจำนวนที่จะพิมพ์ไว้ อาจมีเพียงสิบ ร้อย พัน หรือมากกว่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำนวนจะไม่มีที่สิ้นสุด แต่เป็นเพียงกระบวนการทำงานของศิลปินที่ไม่ได้กำหนดจำนวนไว้เพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน Limited Edition คืองานที่ศิลปินนั้นกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะผลิตจำนวนกี่ชิ้น และจะพิมพ์เพียงจำนวนที่ระบุเท่านั้น เช่น 1/20 นั้นหมายถึงงานชิ้นนี้คืองานชิ้นแรกของจำนวน 20 ชิ้น เป็นต้น ทำให้งานใน Edition เหล่านี้จะมีราคาและคุณค่าที่สูงขึ้นอีกด้วย
.
แต่จะสูงขึ้นอย่างไรล่ะ? คุณค่าและราคาของภาพพิมพ์ (และผลงานผลิตซ้ำชนิดอื่นๆ) อาจถูกกำหนดได้จากหลายปัจจัย เช่น จำนวนที่พิมพ์ใน Edition นั้นๆ ดังนั้น Edition ที่พิมพ์น้อยกว่าย่อมมีราคาที่สูงขึ้น เพราะครอบครองได้ยากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของศิลปินด้วยเช่นกัน . หรือแม้แต่ตัวเลขลำดับของชิ้นงานก็มีผลต่อราคาอีกด้วย ถึงแม้ปกติแล้วคุณภาพของชิ้นงานแทบจะไม่ต่างกันเลยในแต่ละเลขของชิ้นงานนั้น หรือแม้แต่ในบางครั้งศิลปินอาจผลิตมาทีเดียวและกำหนดตัวเลขอีกครั้งแบบสุ่ม จึงทำให้ราคาแต่ละเลขนั้นอาจไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ก็มีในหลายกรณีที่ในหนึ่ง Edition แต่ละชิ้นงานมีราคาที่ต่างกัน เช่น ถ้าหากงานประติมากรรม ‘Apollo 13’ ก็เป็นไปได้ที่นักสะสมจะมองหาชิ้นงานลำดับที่ 13 มากกว่านั่นเอง ในกรณีที่แกลลอรี่นำผลงาน Edition นี้มาขายแบบเรียงลำดับเลข ก็อาจทำให้งานที่อยู่ในลำดับท้ายๆมีราคาที่สูงขึ้นตามจำนวนผลงานที่เหลืออยู่อีกด้วย
.
หลายท่านอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วถ้าหากศิลปินตัดสินใจพิมพ์ Limited Edition อีกครั้งล่ะ แล้วจะให้ Edition ที่พิมพ์ไปก่อนหน้าไม่ศักดิ์สิทธิ์รึเปล่า?
หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ Edition ต่อๆไปก็จะถูกนับเป็นลำดับเลขต่อไปเช่น 2nd Edition และ Edition ที่พิมพ์ไปครั้งแรกก็จะเป็น 1st Edition นั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลต่อมูลค่าในอนาคต เพราะจำนวน edition ที่มากขึ้นหมายถึงการหาชิ้นงานนั้นได้ง่ายขึ้น การหายากจึงลดลง พร้อมกับความไม่แน่ใจที่อาจมี 3rd Edition หรือ 4th Edition ออกมาอีก ทำให้เกิดความหวั่นไหวในเสถียรภาพของราคาในอนาคตได้
.
ทั้งนี้ เราได้รวบรวมศัพท์เฉพาะต่างๆที่ผู้อ่านอาจได้เจอในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะในวงการภาพพิมพ์ของต่างประเทศมาเป็นเกร็ดความรู้เพิ่มเติมอีกด้วย
A/P หรือ Artist Proof คืออะไร
หลายๆท่านที่เริ่มศึกษาหรือเริ่มเก็บงานประเภทนี้มาซักพักหนึ่งอาจจะผ่านตากับคำว่า Artist Proof ว่าแต่มันคืออะไรกันล่ะ? Artist Proof หรือ AP หรือ A/P หรือ E.A.(épreuve d’artiste ในภาษาฝรั่งเศส) นั้นคืองานภาพพิมพ์จำนวนหนึ่งที่ศิลปินพิมพ์ขึ้นในช่วงของการทดลองกระบวนการพิมพ์ เช่นการทดสอบแม่พิมพ์ ลองคู่สี ขยับองค์ประกอบต่างๆเพื่อให้ได้งานที่สมบูรณ์ใน Edition จริง ซึ่งผลงานจำนวนนี้จะเป็นของศิลปินเอง จึงทำให้เป็นที่ถวิลหาของนักสะสมมากมาย ราคาจะสูงขึ้นอีกด้วย ส่วนมากนั้นจะไม่เกินหนึ่งในสิบของจำนวนผลงานทั้งหมดของ Edition นั้น ถ้าหากมากกว่านั้นก็อาจทำให้เราสงสัยถึงคุณภาพของ Edition นั้น
The Chop Mark —คือเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ถูกปั๊มลงไปในผลงาน ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าใครคือผู้จัดพิมพ์หรือสตูดิโอที่จัดพิมพ์ผลงานชิ้นนั้น หรือ Edition นั้น
B.A.T หรือ Bon a Tirer เป็นศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสที่อาจแปลได้ว่า "พร้อมที่จะพิมพ์" (Ready to Print or R.T.P) ซึ่งเป็นงานพิมพ์ชิ้นแรกที่ตรงตามมาตรฐานของศิลปินหรือช่างพิมพ์ เหมือนเป็นการยืนยันสุดท้ายก่อนที่จะมีการจัดพิมพ์จริง เมื่อชิ้นงานได้รับการยืนยันแล้วจะไม่มีการปรับแม่พิมพ์หรือรูปแบบการพิมพ์เพิ่มเติมอีกต่อไป ภาพพิมพ์เหล่านี้มักเป็นทรัพย์สินของสตูดิโอที่ผลิตภาพพิมพ์เหล่านี้
H.C หรือ Hors D’ Commerce Proof เป็นศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสที่อาจแปลได้ว่า “ไม่ใช่สำหรับการค้าหรือซื้อขาย” หรือ “Not for Commerce or Not for Sale” หรือ ถ้าพูดกันง่ายๆก็อาจจะเป็นสินค้าตัวโชว์สำหรับบ้านเรา ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ทางศิลปินจัดไว้เพื่อการโปรโมทตัวชิ้นงานในแกลลอรี่หรือสำหรับดีลเลอร์ ซึ่งบางครั้งศิลปินมักจะมอบให้เป็นของขวัญ โดยมีลายเซ็นของศิลปินแต่ปกติแล้วจะไม่มีการลงหมายเลข
.
CP หรือ Colour Proof คือการพิมพ์ทดสอบสี เป็นกระบวนการที่ศิลปินทดลองสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชิ้นงานนั้นๆ ปกติแล้วจะทำก่อนหน้ากระบวนการ B.A.T และมักใช้เป็นวิธีทดสอบลักษณะสีที่จะใช้กับวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ ผ้าไหม ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ เป็นต้น
.
T.P. หรือ Trial Proof อาจแปลไทยได้ว่า “การพิมพ์ทดสอบ” ซึ่งเป็นกระบวนการพิมพ์ที่ศิลปินทดสอบการพิมพ์หลายๆรูปเพื่อทดสอบการพิมพ์ การใช้สี และรายละเอียดต่างๆ ก่อนที่จะพิมพ์ชิ้นงานจริง แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วจะเป็นภาพพิมพ์ที่ยังพิมพ์ไม่เสร็จ แต่ในตลาดงานศิลปะก็อาจเป็นที่ตามหาของนักสะสม เพราะเป็นการเปิดเผยขั้นตอนความคิดของศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงาน
.
P.P. หรือ Printer's Proof หมายถึง "การพิมพ์ทดสอบของช่างพิมพ์" ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่างพิมพ์ได้พิมพ์ชิ้นงานขึ้นเพื่อตรวจสอบคุณภาพของการพิมพ์ อาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่า สีที่แตกต่าง การจัดขอบ คุณภาพของงานที่แตกต่างไปจากชิ้นจริง ซึ่งบ่อยครั้งช่างพิมพ์จะนำชิ้นงานจากกระบวนการนี้ไปเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆจึงเป็นสาเหตุที่งานเหล่านี้โผล่มาอยู่ในท้องตลาดอีกด้วย
.
บางครั้งเราอาจเจอสิ่งที่เรียกว่า Hand-Finishing ซึ่งเป็นกระบวนการที่ศิลปินจะเพิ่มรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับชิ้นงานแต่ละชิ้นใน Editionด้วยมือ เช่นการวาดเพิ่มในบางจุด การพิมพ์องค์ประกอบบางอย่างเพิ่มเติมไปด้วยตนเอง นั่นก็ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและก้าวข้ามคำว่า Edition ไป
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าศิลปินภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ประติมากรรม หรือ NFT ทุกคนจะมีชิ้นงานที่ผ่านกระบวนการต่างๆเหล่านี้ แต่จะแตกต่างไปตามความต้องการในการสร้างงานของแต่ละศิลปิน แต่กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงแม้ชิ้นงานทำซ้ำเหล่านี้จะมีจุดเด่นในการที่ผู้คนสามารถเข้าถึงศิลปินและชิ้นงานได้ง่ายขึ้น นักสะสมก็ยังคงเฟ้นหาความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไปของชิ้นงาน ไม่ต่างจากการที่พวกเขาเก็บชิ้นงานที่เป็นหนึ่งเดียว เพราะสุดท้ายแล้วผู้คนก็ยังคงต้องการความรู้สึกที่ตนเองเป็นผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียวเสมอ
.
.
__________
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้เราประชาสัมพันธ์ได้ที่ media@arttankgroup.co.th
Art Tank Group บริการด้านศิลปะ ครบวงจร
ประมูลศิลปะ ขนส่งและติดตั้งศิลปะ อนุรักษ์งานศิลปะ สื่อและอีเวนท์ศิลปะ
ติดต่อ : 061-626-4241
_____________
Printmaking 101: Explore the World of Art Prints - Uncover the Trendy Items of the New Generation
Currently, printmaking in various forms such as printing, sculpture, or even NFT (Non-Fungible Token) creations is highly popular. However, these works, which gain renown for their ability to be reproduced, result in lower prices and increased accessibility. Prices range from a hundred to tens of millions. Yet, since a single set of artwork can have multiple owners, determined by the number the artist produces from the same mold, it contrasts sharply with works that cannot be replicated, such as drawings or carvings limited to one piece. So, what determines the price of each piece? Or, what determines that this printed piece is different from another piece that looks exactly the same? This is referred to as an “Edition."
What is “Edition?”
In the process of printmaking, "Edition" refers to the number of prints produced from the same printing plate. There are two main types which we are familiar with: Open Edition and Limited Edition.
.
“Open Edition” refers to printed works where the artist does not specify a set number of copies to be printed. It could be as few as ten, a hundred, a thousand, or even more, but it doesn't imply an unlimited quantity. Instead, it signifies a process where the artist has not predetermined a specific number. In contrast, "Limited Edition" refers to works where the artist clearly defines the exact number of copies to be produced. Only that specified number will be printed, such as 1/20, indicating that the piece is the first in a series of 20. This distinction often adds to the perceived value and price of the works in these editions.
.
But how will it increase? The value and price of prints (and other similar reproductions) can be determined by various factors, such as the quantity printed in that specific edition. Therefore, an edition with fewer prints tends to have a higher price because it is more difficult to obtain. However, it also depends on the reputation of the artist.
.
Even the sequential numbers of artworks have an impact on the price. Although generally, the quality of the artworks may hardly differ for each number, sometimes artists may produce a limited edition once and assign numbers randomly, causing each number to have significantly different prices. However, there are cases where each artwork in the same edition has different prices. For example, in the case of the ‘Apollo 13’ artwork, collectors might prefer the piece numbered 13. In instances where galleries sell works from this edition in sequential order, the artworks at the end of the sequence may have higher prices due to the decreasing availability of pieces.”
.
Many may wonder, what if the artist decides to print another Limited Edition? Will the previously printed edition lose its exclusivity? In such a scenario, subsequent editions would be numbered sequentially, such as 2nd Edition, with the first print being designated as the 1st Edition. This could potentially impact the future value of the artwork because an increasing number of editions makes it easier to obtain the piece, diminishing its rarity. Uncertainty may arise about the possibility of a 3rd Edition or 4th Edition, creating volatility in the future stability of the artwork's price.
.
In this regard, we have compiled specific terms that readers may encounter in certain situations, particularly in the international printing industry, as additional knowledge.
A/P or Artist Proof: What is it?
Many of you who are beginning to study or collect works of this type may have come across the term "Artist Proof" at some point. But what exactly is it? Artist Proof, or AP, or A/P, or E.A. (épreuve d’artiste in French), refers to a limited number of prints that an artist produces during the testing phase of the printing process. This includes testing the printing plate, trying color combinations, adjusting various elements to create a complete work in the actual edition. These works are the artist's own, making them highly sought after by collectors. The prices tend to be higher as well. Typically, the number of Artist Proofs does not exceed ten percent of the total edition. If there are more, it may raise questions about the quality of that particular edition.
The Chop Mark is a symbol that is stamped onto a work, indicating who the printmaker or studio that produced that particular work or edition is.
"B.A.T" or "Bon a Tirer" is a term from the French language that can be translated as "Ready to Print" (R.T.P). It refers to the first printed proof that meets the standards of the artist or printmaker. It serves as a final confirmation before actual printing takes place. Once the artwork is approved, there are no further adjustments to the printing plate or printing format. These prints are often considered the property of the studio that produced them.
H.C or Hors D’ Commerce Proof is a term from the French language that can be translated as "Not for Commerce or Not for Sale." In simpler terms, it refers to artworks that are display pieces, created by artists to promote their work in galleries or for dealers. Sometimes, artists may give them as gifts, with the artist's signature, they typically do not have an edition number.
.
CP or Colour Proof is a color testing process. It is a step where artists experiment with the most suitable colors for a particular artwork. This process usually occurs before the B.A.T (Bon à Tirer) process and is commonly used to test color characteristics on various materials such as paper, silk, fabric, and other materials.
.
T.P. or Trial Proof or "test print." It is a printing process where the artist tests multiple prints to assess the printing, color usage, and various details before creating the final artwork. Although technically an unfinished print, in the art market, it may be sought after by collectors as it reveals the artist's creative process.
.
P.P. or Printer's Proof refers to "test prints by the printmaker." It is a process where the printmaker produces prints to inspect the printing quality. These proofs may vary in size, color, framing, and overall quality from the final prints. Printer's Proofs are sometimes given as gifts on various occasions, adding to their presence in the market.
.
Sometimes, you may come across something called Hand-Finishing, a process where the artist manually adds distinctive details to each piece in the edition. This could include hand-drawing in certain areas or personally enhancing some elements of the print. This individual touch gives each piece its uniqueness, going beyond the term “Edition."
.
The above does not mean that printmaking artists, photographers, sculptors, or NFTs, will have works that have undergone these various processes. However, it will vary depending on the requirements of the artist. Nevertheless, it cannot be denied that even though these replicated works may have advantages in terms of accessibility of the artwork, collectors still seek the uniqueness and distinctiveness of the artwork. This is no different from how they collect unique pieces because, in the end, people still want the feeling of being the sole owner of something truly unique.
.
.
__________
Send us your Art news for PR here: media@arttankgroup.co.th
Art Tank Group offers comprehensive services to the Art Ecosystem (Art auction, Art Handling, Art conservation, media, and events) https://www.arttankgroup.co.th
Contact number: 061-626-4241
Comentários