Tank Weekly Explore 3 - 8 June 2025
- Petch
- 4 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที

ว่าไงสายอาร์ต! สัปดาห์นี้เราจะขอชวนทุกคนมาสำรวจโลกแห่งจินตนาการ ความทรงจำ และความเปราะบางของจิตใจ ผ่านนิทรรศการใหม่ที่เปิดให้ชมกันทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ บอกเลยว่าครบรส จะมีนิทรรศการอะไรบ้าง ตามไปรับชมกันได้เลย!!
.
เริ่มกันที่ “Lost in DOMLAND” นิทรรศการเดี่ยวครั้งยิ่งใหญ่ของ “อุดม แต้พานิช” ที่ไม่ได้ชวนเรามาฟังมุก แต่ชวนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีแบบจัดเต็ม กับผลงานกว่า 1,000 ชิ้นที่บ้าบอ สนุกสนาน และจริงใจอย่างเหลือเชื่อ ต่อด้วย “Petit Genre” โดยศิลปิน ERTHH ที่พาเราเข้าไปสำรวจพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ภาพจำ และโลกไซเบอร์ในยุคดิจิทัล และ “In Passing Time” โดย naonejetta.art ที่เก็บรวบรวมช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิต ถ่ายทอดออกมาอย่างเปราะบางผ่านเด็ก ลิง และสัตว์ในโลกสมมติที่ชวนให้เราย้อนมองชีวิตธรรมดาในมุมใหม่ ยังมีนิทรรศการน่าสนใจอีกเพียบ ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย!!🌟🎨
__________

อุดม แต้พานิช กลับมาอีกครั้งพร้อมงานศิลปะที่ไม่ได้แค่ “เล่น” แต่ “จริงจัง” กับนิทรรศการ Lost in DOMLAND ที่ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม นิทรรศการนี้เป็นการเปิดโลกศิลปะที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจินตนาการ นำเสนอผลงานกว่า 1,000 ชิ้น ที่สร้างขึ้นจากหัวใจของ “เด็กชายอุดม” ที่ไม่เคยหยุดเล่น ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม จิตรกรรม หรือของสะสมชวนตะลึง ทุกชิ้นเปี่ยมด้วยความกล้าฝันและกล้าเป็นตัวเอง
.
นิทรรศการนี้ไม่ได้ตั้งใจให้คุณมาแค่ “ชม” แต่มาช่วยกันค้นหาสิ่งที่คุณหลงลืมไป นั่นคือ “ความกล้าในการเล่น” ที่เราเคยมีในวัยเยาว์ แต่ถูกสังคมของ ‘ผู้ใหญ่โซน’ หล่อหลอมให้กลัวผิด กลัวพลาด และกลัวสายตาคนอื่น DOMLAND ชวนให้เราทบทวนว่า… การหยุดเล่นคือการเริ่มแก่ ไม่ใช่ทางกาย แต่ทางจิตวิญญาณ และไม่มีครีมไหนในโลกจะช่วยได้ นอกจากเราต้องกลับมาเล่นอีกครั้งด้วยหัวใจ
.
ผลงานทั้งหมดถูกจัดแสดงในพื้นที่กว่า 1 สนามฟุตบอล ลึกลงไปใต้ IconSiam เกือบ 40 เมตรจากระดับน้ำเจ้าพระยา จนผู้ชมรู้สึกราวกับได้หลุดเข้าไปในโลกใต้ดินแห่งจินตนาการที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุก และคำถามถึงชีวิต อุดมไม่ได้แค่บอกเล่า แต่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ร่วมเล่น ร่วมมอง และร่วมคิด ไปกับทุกมุมเล็กมุมใหญ่ของ DOMLAND ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบจริงจัง
.
นิทรรศการ Lost in DOMLAND เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 ที่ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม บัตร Early Bird ราคา 750 บาท (เปิดขายถึง 6 มิ.ย.) บัตรปกติราคา 850 บาท และบัตรเด็ก 250 บาท (สำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. ขายหน้างานเท่านั้น) ซื้อบัตรได้ที่ 7-Eleven ทุกสาขาหรือ www.allticket.com/event/lostindomland มาใช้เวลากับตัวเองในพื้นที่ที่จินตนาการไม่ถูกจำกัด แล้วคุณจะพบว่าการ “เล่น” อาจเป็นเรื่องจริงจังที่สุดในชีวิต
.
.
Location : THE PINNACLE HALL, 8th FLOOR, ICONSIAM
Hours : 11:00 - 21:00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/Trendygallery.art
ขอบคุณรูปภาพจาก : Tang Contemporary Art Bangkok

“Petit Genre” คือนิทรรศการเดี่ยวของ ERTHH ศิลปินชาวไทยรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดการเติบโตและโลกภายในผ่านภาพวาดป๊อปเซอร์เรียลลิสม์ที่ทั้งสดใสและเต็มไปด้วยนัยยะ ตัวละครหลักอย่าง “Cheek” เด็กชายหน้าตาเฉยที่ปรากฏอยู่ในหลายภาพ เป็นตัวแทนของการเดินทางทางอารมณ์ของศิลปิน ถ่ายทอดช่วงเวลาของการตั้งคำถาม การค้นหา และการเผชิญหน้ากับความไม่เข้าใจในชีวิต
.
ในแต่ละภาพ รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างท่าทาง สายตา หรือสิ่งของที่รายล้อม Cheek ต่างเก็บงำเรื่องราวและบทเรียนจากประสบการณ์จริงของศิลปิน ผู้ชมจึงไม่ได้แค่ชมภาพวาด แต่กำลังสำรวจเส้นทางเติบโตที่ไม่มีสูตรสำเร็จ ผ่านภาษาทัศนศิลป์ที่เป็นส่วนผสมระหว่างความฝัน ความหวัง และความจริงที่บางครั้งก็โหดร้าย
.
นิทรรศการนี้ชูแนวคิดว่าความรู้และความเข้าใจในชีวิต ไม่ได้มาจากอายุหรือการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ชีวิตจริง การผิดหวัง การล้มเหลว การยืนหยัด และการเรียนรู้ในทุกก้าวของการเดินทาง ERTHH เลือกที่จะยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ เหมือนกับการที่ Cheek ยังคงมีฟันน้ำนมซ่อนอยู่ใต้สูทผู้ใหญ่ เป็นภาพเปรียบเปรยถึงความเป็นมนุษย์ที่ยังคงเรียนรู้อยู่เสมอ
.
“Petit Genre” จึงเป็นพื้นที่ที่หลอมรวมระหว่างความทรงจำ วัยเยาว์ และการเติบโต เป็นนิทรรศการที่พูดถึงชีวิตในแบบที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่ลึกซึ้ง และชวนให้เราทบทวนว่าบางทีเส้นทางที่ขรุขระที่สุด ก็คือหนทางที่พาเราไปพบกับตัวเองอย่างแท้จริง
.
.
Location : Tang Contemporary Art Bangkok
Hours : 11:00 - 19:00 น. (ปิดวันจันทร์)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/TangContemporaryArtBangkok
ขอบคุณรูปภาพจาก : Tang Contemporary Art Bangkok

In Passing Time โดย naonejetta.art คือนิทรรศการที่ชวนให้เราค่อย ๆ ทบทวนตัวเอง ผ่านศิลปะที่ไม่เร่งรีบ ไม่รีบร้อนจะเล่าเรื่อง แต่เลือกเก็บความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ของศิลปินไว้ในแต่ละช่วงเวลา ราวกับบันทึกที่เขียนขึ้นด้วยหัวใจ มากกว่าปากกา นิทรรศการนี้ไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ต้องไล่เรียง หากแต่เป็นการเรียงร้อยช่วงเวลาเล็ก ๆ ที่ชีวิตมอบให้ ความเงียบที่ค้างคา ความเหงาที่แฝงมาในความสงบ ความไม่แน่นอนที่ทำให้เราเห็นด้านที่เปราะบางของตัวเอง และความสุขเรียบง่ายในวันธรรมดา ทั้งหมดถูกร้อยเรียงเป็นบทสนทนาภายในที่ศิลปินอยากชวนให้ผู้ชมรับฟัง
.
ผลงานในชุดนี้เปี่ยมไปด้วยความละเอียดอ่อนทางอารมณ์และชวนให้ตั้งคำถามต่อสิ่งรอบตัว ตัวละครหลักที่มักปรากฏในผลงานของศิลปินคือ “เด็ก” และ “ลิง” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงภาพน่ารัก หากเป็นตัวแทนของการรับรู้และสัญชาตญาณที่ยังไม่ถูกโลกตีกรอบ เด็กคือดวงตาที่มองโลกด้วยความซื่อสัตย์และเปิดกว้าง ขณะที่ลิงคือเสียงภายในที่เต็มไปด้วยอารมณ์ตรงไปตรงมาและไร้การควบคุม ศิลปินนำตัวละครเหล่านี้มาวางไว้ในโลกสมมติที่เต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่ สร้างเป็นฉากแห่งบทสนทนาที่ไร้ถ้อยคำ แต่เปี่ยมด้วยความหมาย
.
โลกในผลงานของศิลปินไม่ใช่โลกแฟนตาซีเพื่อหลบหนีความจริง แต่เป็นพื้นที่แห่งการพินิจและยอมรับความจริงอย่างอ่อนโยน ที่ซึ่งความรู้สึกซับซ้อนอย่างความสงสัย ความเหงา ความอบอุ่น หรือแม้แต่ความเปราะบางสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม นิทรรศการนี้จึงเปรียบเสมือน “สมุดบันทึก” ที่ไม่ต้องมีคำตอบตายตัว แต่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมตีความด้วยตัวเอง ช่วงเวลาอันเรียบง่ายที่ผ่านไป อาจกลายเป็นหมุดหมายเล็ก ๆ ที่หล่อหลอมให้เรากลายเป็นเราในวันนี้
.
In Passing Time ไม่ได้ต้องการอธิบายโลก แต่ต้องการฟังโลกมากกว่า เป็นนิทรรศการที่ขอชวนให้คุณปล่อยให้ตัวเองได้หยุดนิ่ง เพื่อสัมผัสสิ่งที่อาจหล่นหายไประหว่างทาง ความคิดที่ยังไม่ได้พูด ความรู้สึกที่ยังไม่ได้ยอมรับ และคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ บางที… การใช้เวลากับงานชุดนี้ อาจทำให้คุณพบบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในใจมานาน โดยไม่เคยเอ่ยออกมาเลยก็ได้
.
.
Location: KICHgallery
Hours: 10:00 - 18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/kichgallery
ขอบคุณรูปภาพจาก: KICHgallery

ในโลกที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยเสียงรบกวน นิทรรศการ “สุนทรียะแห่งความธรรมดา (Aesthetic of Ordinariness)” โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐ ขอชวนเรากลับมาเงี่ยหูฟังเสียงลมหายใจของชีวิตประจำวัน เสียงที่แผ่วเบาแต่เปี่ยมความหมาย งานชุดนี้เป็นนิทรรศการลำดับที่ 10 ของโครงการ Self-Enquiry ที่คามินร่วมพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับอัตตา แกลเลอรี่ โดยหยิบเอาความเรียบง่ายของธรรมชาติ ชีวิต และความรู้สึกที่มักหล่นหายระหว่างวันมาสำรวจด้วยสายตาอ่อนโยน ผ่านบทกวี วิดีโอ และงานศิลปะจัดวางในพื้นที่ที่ไม่ธรรมดาอย่าง พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
.
แกนกลางของนิทรรศการคือบทกวีสามบรรทัด “Hope is now” ที่เขียนขึ้นระหว่างการเดินทางสู่เกาะต่าง ๆ และวิดีโอ “ชีวิตชิวๆ (Slow Life)” ที่บันทึกความงามใต้ท้องทะเลและวิถีที่ไม่เร่งรีบ ทั้งหมดคือผลสืบเนื่องจากการค้นหาความหมายของชีวิตที่คามินสั่งสมมาตั้งแต่งานชุด “ความจริงชั่วขณะ ๒๕๔๐” ผลงานใหม่ ๆ เหล่านี้จึงไม่ใช่แค่ศิลปะเพื่อชม แต่คือบทภาวนาทางศิลป์ที่มุ่งไปสู่การปล่อยวาง ค่อย ๆ คลี่ความงามออกมาจากสิ่งธรรมดาในทุกวัน
.
นิทรรศการยังเชื่อมบทสนทนากับศิลปินและกวีร่วมสมัย ธีรวัตร แสงผึ้ง ผ่านบทกวีแคนโต้และการจัดแสดงวิถีชีวิตจากเมืองเชียงคาน รวมถึงกิจกรรมเสวนาในวันเปิดงาน โดยมีแขกรับเชิญอย่าง โจน จันใด และ อภิ ภานุวงษ์ ร่วมแลกเปลี่ยนบทเรียนแห่งการมองโลกอย่างสงบ งานนี้จึงไม่ใช่แค่นิทรรศการศิลปะ แต่เป็นพื้นที่ทางจิตวิญญาณที่เปิดให้ผู้ชมเข้ามาสัมผัส พักใจ และค่อย ๆ รู้จัก “ความงาม” ที่ไม่ต้องแสดงตัวออกมาอย่างฟู่ฟ่า หากแต่อยู่ในทุกลมหายใจของปัจจุบันขณะ
.
สุนทรียะแห่งความธรรมดา เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม – 19 สิงหาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ (สำนักงาน) ซอยวัดอุโมงค์ 11 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์ – อังคาร เวลา 13.00–17.00 น. ใครที่กำลังตามหาพื้นที่สงบในจิตใจ หรือต้องการฟังเสียงของตัวเองให้ชัดขึ้นอีกนิด นิทรรศการนี้คือคำเชิญชวนให้คุณ “กลับบ้าน” กลับมาหาความปกติที่เปี่ยมด้วยความงามที่อยู่ตรงหน้าตลอดมาแล้วแค่ยังไม่เคยได้มองเห็น
.
.
Location: 31st Century Museum of Contemporary Spirit, Chiang Mai
Hours: 13:00 - 17:00 น. (ปิดทุกวัน พุธ-ศุกร์)
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/31century
ขอบคุณรูปภาพจาก: 31st Century Museum

Chronoscapes คือนิทรรศการกลุ่มที่นำเสนอผลงานของสามศิลปินไทย อรุณกมล ทองมอญ, กำธร เภาวัฒนาสุข และพชร ปิยะทรงสุทธิ์ ซึ่งแต่ละคนมีวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านศิลปะเฉพาะตัว เพื่อสำรวจความเปราะบางของความทรงจำ ความจริง และการรับรู้ นิทรรศการนี้ตั้งคำถามถึงความเป็นจริงที่เรายึดถือ พร้อมชวนผู้ชมร่วมพิจารณาว่า ภูมิทัศน์ทางอารมณ์ สังคม และการเมืองอาจเป็นเพียงสิ่งสมมติที่เรารับรู้ผ่านประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น
.
อรุณกมล ทองมอญ ใช้เศษวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมาสร้างงานประติมากรรมที่ผสานเทคนิคพับกระดาษโอริกามิ ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องการทวงคืนความเป็นมนุษย์จากระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมอย่างสง่างาม ผลงานของเธอเผยให้เห็นความเป็นไปได้ของวัสดุ และยกระดับวัตถุที่ถูกทิ้งให้กลายเป็นสื่อที่เล่าเรื่องอย่างทรงพลัง
.
กำธร เภาวัฒนาสุข ถ่ายทอดภาพถ่ายเชิงทดลองที่ตั้งคำถามต่อความจริงของโลกใบนี้ ด้วยการเล่าเรื่องผ่านมิติของความฝัน ความทรงจำ และความรู้สึกส่วนตัว เขาสร้างโลกภาพซ้อนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความจริงและความไม่จริง ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในจิตใจ และการพยายามเข้าใจโลกในแบบของตนเอง
.
พชร ปิยะทรงสุทธิ์ นำเสนอจิตรกรรมที่เล่าถึงผลกระทบของเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในไทยตั้งแต่ทศวรรษ 2510 เป็นต้นมา โดยถ่ายทอดอารมณ์และความทรงจำส่วนตัวผ่านภูมิทัศน์เหนือจริง ภายใต้บรรยากาศเงียบงันที่เชื้อเชิญให้ผู้ชมสำรวจประวัติศาสตร์ร่วมในมุมที่เปราะบางและลึกซึ้งกว่าที่เคยรับรู้
.
.
Location : West Eden
Hours : 11:00 - 18:00 น. (ปิดวัน จันทร์ - พุธ)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/westedenbkk
ขอบคุณรูปภาพจาก : West Eden

“Once Was” โดย Iwan Effendi นำเสนอผลงานศิลปะที่ต่อยอดจากรากฐานของเขาในฐานะนักเชิดหุ่น ผ่านการวาดภาพ จิตรกรรม และภาพเคลื่อนไหวที่สื่อถึงภาวะของ “ความทรงจำของการปรากฏ” ร่องรอยบนกระดาษกลายเป็นหลักฐานของการเคลื่อนไหวที่เคยเกิดขึ้น แม้จะถูกลบและวาดขึ้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าทุกเสี้ยววินาทีของการแสดงได้ฝากร่องรอยบางอย่างไว้ในโลกแห่งความจริง
.
แก่นสำคัญของนิทรรศการนี้คือการตั้งคำถามถึงสิ่งที่เคยดำรงอยู่ ผ่านการบันทึกและลบเลือนอย่างไม่หยุดนิ่ง อิวันไม่ได้สนใจเพียงเรื่องราวที่เล่าผ่านภาพ แต่กลับให้ความสำคัญกับกระบวนการและร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการลงมือทำ ศิลปะของเขาจึงกลายเป็นบทสนทนาระหว่างสิ่งที่เห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น ระหว่างสิ่งที่แนบแน่นและสิ่งที่ล่องลอยไม่จีรัง
.
ผลงานชุดนี้ยังรวมถึงภาพเหมือนตนเอง ซึ่งศิลปินแปรเปลี่ยนร่างกายให้เป็น “วัตถุ” หรือหุ่นเชิดอีกชิ้นหนึ่ง นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนและสิ่งไม่มีชีวิต เส้นแบ่งระหว่างการเคลื่อนไหวกับความนิ่งกลายเป็นพื้นที่สำรวจใหม่ที่ซ้อนทับระหว่างความจำ ความรู้สึก และประสบการณ์ทางกายภาพ ผลงานเหล่านี้จึงสะท้อนทั้งมิติส่วนตัวของศิลปิน และความเป็นสากลของความทรงจำที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
.
นิทรรศการ “Once Was” คือบทกวีเงียบที่พูดถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแต่ไม่มีวันย้อนคืนกลับมา ความทรงจำไม่ได้ถูกบันทึกไว้เพื่อคงอยู่ แต่เพื่อแปรเปลี่ยน กลายเป็นเศษเสี้ยวที่ประกอบสร้างความเข้าใจใหม่ในปัจจุบัน ผู้ชมจะได้สัมผัสทั้งความรู้สึกงาม ความเปราะบาง และความลื่นไหลของการดำรงอยู่ ผ่านผลงานที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยนัยยะจากศิลปินผู้ปลุกชีวิตให้กับสิ่งไร้ชีวิตมาตลอดชีวิตการทำงานของเขา
.
.
Location : ara contemporary, Indonesia
Hours : 11:00 - 19:00 น. (ปิดวัน อาทิตย์ และ วันจันทร์)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.instagram.com/aracontemporary/?hl=en
ขอบคุณรูปภาพจาก : ara contemporary
.
.
__________
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้เราประชาสัมพันธ์ได้ที่ media@arttankgroup.co.th
.
Art Tank Group บริการด้านศิลปะ ครบวงจร
ประมูลศิลปะ ขนส่งและติดตั้งศิลปะ อนุรักษ์งานศิลปะ สื่อและอีเวนท์ศิลปะ
ติดต่อ : 061-626-4241
#Inpassingtime #naonejetta #artexhibition #artgallery #kichgallery #LostinDOMLAND #UdomTaephanich #TrendyGallery #PetitGenre #ERTHH #TangContemporaryArtBangkok #31stCenturyMuseum #aracontemporary #WestEden
Comments